สำหรับนักเดิมพันคนไหนที่เป็นมือใหม่และยังไม่มีประสบการณ์ในการเล่นบาคาร่าออนไลน์มากนัก จำเป็นอย่างมากที่คุณจะต้องทำความเข้าใจกับ วิธีเล่น บา คา ร่า ให้ได้เงิน เสียก่อน เพื่อที่จะสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเล่นเกมของคุณได้ เมื่อพบเจอกับสถานการณ์ต่าง ๆ ระหว่างการเล่นจะได้มีสติและมีแผนสำรองการเดิมพันทุกครั้ง อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินอีกด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับการเล่นบาคาร่าที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้และมองข้าม จะมีวิธีใดบ้างไปติดตามกันต่อได้เลย
วิธีเล่น บา คา ร่า ให้ได้เงิน จะต้องเข้าใจแต้มบาคาร่าเสียก่อน
ก่อนที่จะไปทำความเข้าใจกับวิธีเล่นบาคาร่า เราคงต้องมาทำความเข้าใจกับจำนวนแต้มของตัวไพ่กันก่อน โดยไพ่ Ace จะมีค่า 1 แต้ม ,ไพ่ 2 จะมีค่า 2 แต้ม ,ไพ่ 3 จะมีค่า 3 แต้ม ,ไพ่ 4 จะมีค่า 4 แต้ม ,ไพ่ 5 จะมีค่า 5 แต้ม ,ไพ่ 6 จะมีค่า 6 แต้ม ,ไพ่ 7 จะมีค่า 7 แต้ม ,ไพ่ 8 จะมีค่า 8 แต้ม ,ไพ่ 9 จะมีค่า 9 แต้ม และไพ่ 10, J , Q, K จะมีค่า 0 แต้ม และนอกจากที่เราจะต้องรู้แต้มไพ่แล้ว ก็ต้องมาขยายความศัพท์เทคนิคในการเล่นบาคาร่ากันด้วย ไม่ว่าจะเป็น Banker ที่แปลว่าเจ้ามือหรือดีลเลอร์ Player ที่แปลว่าผู้เล่น
ซึ่งตามปกติของเกมไพ่บาคาร่านั้นมักจะมีสองฝั่งให้นักเดิมพันเลือกวางเดิมพันระหว่างฝ่าย Player และ Banker โดยผู้ที่วางเดิมพันทางฝั่งเจ้ามือ (Banker) เมื่อชนะเดิมพันจะถูกหักค่าคอมมิชชั่นจากโต๊ะเป็นเงิน 5% ของรางวัลที่ได้ แต่ถ้าเดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player) ก็จะไม่โดนหักค่าคอมมิชชั่น หรือถ้าโดนหักก็ไม่ถึง 1% เป็นเพราะว่าโอกาสที่ฝั่งเจ้ามือจะชนะนั้นมีมากกว่าฝั่งผู้เล่น แต่ถ้าชนะก็เสียค่าคอมมิชชั่นเยอะกว่านั่นเอง ดังนั้นคุณต้องชั่งน้ำหนักและพิจารณาเอาว่าจะเลือกเดิมพันที่ฝั่งใดจะทำให้คุณเหลือกำไรได้มากกว่ากัน
เมื่อพอรู้ศัพท์เทคนิค ร่วมถึงแต้มของไฟแต่ละใบแล้วก็กลับมาสู่กติกาการเล่นบาคาร่ากัน โดยในการเล่นบาคาร่าแต่ละเกมนั้นแต่ละฝั่งจะได้รับการแจกไพ่อย่างน้อย 2 ใบ แต่ไม่เกิน 3 ใบ ไพ่บาคาร่าใบแรกกับใบที่สามจะแจกจากกองให้แก่ฝ่ายผู้เล่น ส่วนใบที่สองกับใบที่สี่แจกให้ฝ่ายเจ้ามือ ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องการไพ่ใบที่สามก็จะมีเงื่อนไขตามกติกาพิเศษ คือ ทางฝั่งของผู้เล่น ถ้าแต้ม 2 ใบแรกรวมกันได้ต่ำกว่า 5 จะต้องจั่วเพิ่มอีก 1 ใบ แต่ถ้าแต้ม 2 ใบแรกรวมกันได้ 6 หรือ 7 ก็ไม่ต้องจั่วแล้ว ส่วนทางฝั่งของเจ้ามือนั้น ถ้าแต้มต่ำกว่า 2 แต้ม ก็จะจั่วเพิ่มทันที 1 ใบ แต่ถ้ามากกว่า 3 แต้มจะมีกฎเข้ามาควบคุมเกี่ยวกับการจั่วไพ่ของเจ้ามือ
กฎของบาคาร่าออนไลน์
- ถ้าเจ้ามือ 3 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นได้ 8 เจ้ามือไม่ต้องจั่วเพิ่ม
- ถ้าเจ้ามือ 4 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่นได้ 0, 1, 8, 9 เจ้ามือไม่ต้องจั่วเพิ่ม
- ถ้าเจ้ามือ 5 แต้ม และไพ่ใบที่ 3ของผู้เล่นได้ 0, 1, 2, 3, 8, 9 เจ้ามือไม่ต้องจั่วเพิ่ม
- ถ้าเจ้ามือ 6 แต้ม และไพ่ใบที่ 3ของผู้เล่นได้ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 8, 9 เจ้ามือไม่ต้องจั่วเพิ่ม
- ถ้าเจ้ามือ 7 แต้ม ไม่ต้องจั่วเพิ่ม
กฎบาคาร่าต่าง ๆ เหล่านี้จะถือเป็นเงื่อนไขในการเล่นที่ทำให้เกมเกิดความสนุกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในการเล่นบาคาร่ายังมีเรื่องของไพ่แนชเชอรัลเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยไพ่แนชเชอรัลนั้นมีส่วนใกล้เคียงกับการเล่นป๊อกเด้งที่เรารู้จักกันก็คือป๊อกแปดกับป๊อกเก้า
ซึ่งไพ่แนชเชอรัลจะหมายถึงการได้แต้มรวม 8 แต้ม หรือ 9 แต้ม จากไพ่สองใบแรก ซึ่งเมื่อขึ้นหน้าไพ่แบบนี้แล้วทั้งสองฝ่ายจะไม่มีสิทธิจั่วไฟอีก และตามปกติไพ่ที่มีแต้มเหนือกว่าไพ่แนชเชอรัล 8 แต้ม ก็คือไพ่ไพ่แนชเชอรัล 9 แต้มนั่นเอง ซึ่งในการเล่นบาคาร่าออนไลน์นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเดิมพันฝั่งที่จะชนะระหว่างเจ้ามือกับผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังมีการเดิมพันอีกหลายรูปแบบ ซึ่งก็คือ
- Tie Game หรือการเดิมพันเสมอระหว่างเจ้ามือและผู้เล่น มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 8 เท่า
- Player Pair หรือการเดิมพันผู้เล่นออกคู่ มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 11 เท่า
- Banker Pair หรือการเดิมพันเจ้ามือออกคู่ มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 11 เท่า
โดยอัตราต่อรองนี้ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานเกือบทุกคาสิโนออนไลน์ แต่ก็อาจจะมีบางคาสิโนที่มีอัตราต่อรองแตกต่างกันไป นอกจากนี้บางคาสิโนอาจจะมีการเดิมพันที่เพิ่มเติมไปจากนี้ด้วย ก็ขึ้นอยู่กับนักเดิมพันแต่ละคนว่าจะสนใจวางเดิมพันแบบไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องเลือกเว็บไซต์คาสิโนที่น่าเชื่อถือและมีสถานะการเงินที่มั่นคง เพื่อที่คุณจะได้ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบและสามารถหาเงินจากการเล่นบาคาร่าได้นั่นเอง