การเล่นบาคาร่าออนไลน์นั้นหลัก ๆ จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ บาคาร่าออนไลน์คลาสสิก และ บาคาร่าออนไลน์ประกันภัย ซึ่งถ้าคุณต้องการประกันฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ต้องลงเดิมพันฝ่ายนั้น และสามารถใช้สิทธิได้เกมละครั้งเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการที่คุณสามารถป้องกันการสูญเสียของเงินเดิมพันทั้งหมดได้ เป็นเหมือนกับการซื้อประกันความปลอดภัยให้ตนเองเช่นเดียวกับการซื้อประกันบ้านประกันรถนั่นเอง ดังนั้นการเล่น บาคาร่าประกันภัย จึงถือว่าได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยป้องกันการขาดทุนของผู้เล่นได้นั่นเอง
ความแตกต่างของบาคาร่าคลาสสิก และ บาคาร่าประกันภัย
บาคาร่าคลาสสิกเจ้ามือจะแจกไพ่ให้คนละ 2 ใบตามปกติ และฝ่ายใดแต้มสูงกว่าก็จะชนะ เป็นวิธีเล่นบาคาร่าตามปกติทั่วไปที่ทุกคนต่างคุ้นเคยกันดี แต่สำหรับ บาคาร่าประกันภัย จะเพิ่มความสนุกและน่าตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อเจ้ามือทำการแจกไพ่คนละ 2 ใบและต้องจั่วไพ่เพิ่มทั้ง 2 ฝั่ง ณ เวลานี้เอง ทางเว็บไซต์จะเปิดให้คุณได้เลือกซื้อประกันภัยก่อนที่คุณจะทำการเปิดหน้าไพ่ใบที่ 3 ที่จั่วมา ซึ่งคุณเดิมพันฝั่งใดไปก็ต้องซื้อประกันของฝั่งนั้นเท่านั้น ห้ามซื้อของอีกฝั่ง โดยเราจะอธิบายกฎให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้
ถ้าคุณเดิมพันและประกันเจ้ามือ เมื่อผลออกมาว่าเจ้ามือชนะ คุณจะได้เงินเดิมพันและเงินประกันคืน
ถ้าคุณเดิมพันและประกันเจ้ามือ เมื่อผลออกมาว่าเจ้ามือแพ้ คุณจะได้แค่เงินประกันคืนเท่านั้น
อัตราการจ่ายเงินรางวัล บาคาร่าประกันภัย
- ฝั่งเจ้ามือ (Banker)
-เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 0–3 เจ้ามือแต้ม 4 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
-เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 0–4 เจ้ามือแต้ม 5 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
-เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 0–5 เจ้ามือแต้ม 6 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
-เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 0–5 เจ้ามือแต้ม 7 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
-เจ้ามือมีไพ่ 3 ใบ ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 0 เจ้ามือแต้ม 1–6 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
-เจ้ามือมีไพ่ 3 ใบ ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 1 เจ้ามือแต้ม 2–6 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
-เจ้ามือมีไพ่ 3 ใบ ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 2 เจ้ามือแต้ม 3–6 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
-เจ้ามือมีไพ่ 3 ใบ ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 3 เจ้ามือแต้ม 4 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
-เจ้ามือมีไพ่ 3 ใบ ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 4 เจ้ามือแต้ม 6 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
- ฝั่งผู้เล่น (Player)
-ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 5 เจ้ามือแต้ม 4 ราคาต่อรอง คือ 1:2
-ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 6 เจ้ามือแต้ม 0–5 ราคาต่อรอง คือ 1:3
-ผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบ เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 7 เจ้ามือแต้ม 0–5 ราคาต่อรอง คือ 1:4
-ผู้เล่นมีไพ่ 3 ใบ เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 4 เจ้ามือแต้ม 0–3 ราคาต่อรอง คือ 1:1.5
-ผู้เล่นมีไพ่ 3 ใบ เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 5 เจ้ามือแต้ม 0–4 ราคาต่อรอง คือ 1:2
-ผู้เล่นมีไพ่ 3 ใบ เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 6 เจ้ามือแต้ม 0–5 ราคาต่อรอง คือ 1:3
-ผู้เล่นมีไพ่ 3 ใบ เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 7 เจ้ามือแต้ม 0–6 ราคาต่อรอง คือ 1:4
-ผู้เล่นมีไพ่ 3 ใบ เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 8 เจ้ามือแต้ม 0–6 ราคาต่อรอง คือ 1:8
-ผู้เล่นมีไพ่ 3 ใบ เจ้ามือมีไพ่ 2 ใบ ผู้เล่นแต้ม 9 เจ้ามือแต้ม 0–6 ราคาต่อรอง คือ 1:10

ข้อดีในการเล่น
- ทำให้นักเดิมพันมีความมั่นใจและกล้าที่จะเดิมพันมากขึ้น
แน่นอนว่าในการเล่นบาคาร่าประเภทนี้จะช่วยให้นักเดิมพันมีความมั่นใจและกล้าเดิมพันมากขึ้นเพราะว่ามีโอกาสชนะมากขึ้นนั่นเอง แต่ถ้าแพ้ก็ถือว่าไม่ได้สูญเสียอะไรมาก ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นก็ยังมีเงินทุนเอาไว้เล่นใหม่ในตาต่อไปเพราะไม่ได้สูญเสียไปทั้งหมด
- ลดความเสี่ยงในการเดิมพัน
ตามที่เราได้กล่าวไปแล้วเบื้องต้นว่าการซื้อประกันจะทำได้แค่เกมละครั้งเท่านั้น ดังนั้นคุณควรเลือกซื้อเฉพาะตาที่คุณไม่มั่นใจเท่านั้นเพราะจะช่วยให้คุณมีโอกาสชนะมากขึ้น และยังเหลือทุนเอาไว้เล่นในตาต่อไปได้
- เป็นการเล่นทีมีความท้าทายรูปแบบหนึ่ง
เชื่อว่าการเล่นบาคาร่าประเภทนี้เหมาะอย่างยิ่งกับนักเดิมพันที่รับความเสี่ยงได้น้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เหมาะกับนักเดิมพันที่ชอบความท้าทายด้วยเช่นกัน เพราะคุณจะต้องเลือกว่าต้องการซื้อประกันในตาไหนเพราะมันใช้ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าคุณเลือกซื้อในตาที่คุณสามารถชนะได้ง่าย ๆ ก็ถือว่าเสียสิทธิประกันไปฟรี ๆ ในทางตรงข้าม ตาต่อไปที่คุณเกิดไม่มั่นใจในการเดิมพันขึ้นมาคุณก็ไม่สามารถซื้อประกันได้อีกแล้ว ดังนั้นคุณจึงควรใช้กับตาที่คุณไม่มั่นใจผลมากที่สุดเพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวคุณเอง